โดยปกติแล้วการจะทำธุรกรรมใด ๆ ล้วนแต่ต้องการคนกลางเพื่อเข้ามากำกับตรวจสอบความโปรงใส
แต่ปัจจุบันเราได้มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างโปรงใสและปลอดภัย
นั้นคือเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อกเชน (Block Chain)
บล็อกเชน (Block Chain) คือ การเก็บข้อมูลแบบนึงที่เก็บเป็นส่วนๆ และนำมาร้อยต่อกันเรื่อยๆ เหมือนโซ่คล้องกัน
โดยมีวิธีเข้ารหัสทางคอมพิวเตอร์เพื่อความปลอดภัย ที่ทำให้รู้ว่าข้อมูลถูกเก็บ ณ เวลาใด มีการแก้ไขหรือเปล่า
โดยข้อมูลทั้งหมดจะส่งและกระจายเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่อยู่ในเครือข่าย
ข้อมูลที่ถูกเขียนลงไปแล้ว จึงมีความน่าเชือถือเพราะทุกคนในเครือข่ายจะเห็นการเปลี่ยนแปลงพร้อมๆ กัน
เทคโนโลยีบล็อกเชนเกิดขึ้นพร้อมกับบิตคอยน์
บล็อกเชนจึงถูกนำมาใช้ในเงินระบบดิจิทัล โดยเก็บข้อมูลจำนวนเงินที่ทุกคนมี จำนวนการโอนทุกครั้งของทุก ๆ คน
เข้าไปในบล็อกแต่ละบล็อกต่อกันไปเรื่อยๆ และกระจายไปให้ทุกคนรับรู้ ก็ทำให้เงินดิจิทัลนั้นมีความโปร่งใส ปลอดภัย
โดยไม่จำเป็นต้องผ่านคนกลาง แต่จำเป็นที่จะต้องอาศัยการแบ่งปันทรัพยากรคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานเพื่อยืนยันความโปร่งใส
6 ขั้นตอนการทำงานของ Block Chain
1) เมื่อ A ต้องการโอนเงิน (ส่งข้อมูล) ไปให้ B ผ่านเลขบัญชี โดยใช้ Private key+Password และ Public Key
2) จากนั้น เก็บ Transaction ไว้ใน Public Ledger เป็น Block
3) มีการส่งข้อมูลไปที่เครือข่าย
4) ธุรกรรมจะถูก ยืนยันความถูกต้องโดย Miner และต้องไม่ถูกคัดค้านจากผู้ใช้
5) เมื่อถูกยืนยันแล้วจะเพิ่ม Block นั้นเข้าไปยัง Chain
6) เงินถูกถ่ายโอนและอัพเดทข้อมูลแก่ผู้ใช้
โดยขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีแล้วแต่จำนวน Miner ใน Block Chain นั้น ๆ
ดังนั้นจำเป็นที่เราจะต้องรอการยืนยันก่อนเพื่อความชัวร์
บล็อกเชน ถูกใช้ในหลายอุตสาหกรรมไม่ใช่แค่วงการเงินดิจิทัล
ธุรกิจการเงิน - ใช้บล็อกเชนมาแทนเครือข่ายบาทเน็ตที่ใช้ระหว่างธนาคาร หรือนำบล็อกเชนมาจัดการเรื่อง ข้อมูลลูกค้าและ Credit Score บนระบบกู้ยืมทางออนไลน์
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ - ใช้บล็อกเชนเก็บข้อมูลแทนโฉนด (Land Registry) หรือการนำบล็อกเชนมาช่วยในการแบ่งการเป็นเจ้าของ (Asset Tokenization)
ธุรกิจโรงพยาบาล - นำบล็อกเชนมาเก็บข้อมูลการรักษาของคนไข้ เพิ่มความโปร่งใส และความปลอดภัย หรือช่วยในการตรวจสอบที่มาของยาแต่ละชนิด ป้องกันการปลอมแปลง
ธุรกิจค้าปลีก - นำข้อมูลอาหารที่ขายมาเก็บเพื่อดูสายการผลิตจากโรงงานมาถึงชั้นวางของ
ทั้งนี้ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นการพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน (Block Chain) ในด้านอื่น ๆ อีก
มากมายจนสามารถเข้าทดแทนเทคโนโลยีเดิมได้ เราจะนำมาอัปเดตให้ทุกคนได้รู้กันแน่นอนครับ
@alltimage