ในยุคนี้หลายคนคงจะคุ้นเคยกับผู้ช่วยอัจฉริยะในยุค Ai ที่สามารถช่วยภารกิจประจำวันเราได้ด้วยคำสั่งเสียง
เพราะต่างเริ่มมีบทบาทในชีวิตคนเรามากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้ #iOS คงจะคุ้นเคยดีกับ Siri ผ่านคำสั่ง "หวัดดี สิริ"
ผู้ใช้ #Andrion ก็คงจะคุ้นเคย Google assistant ผ่านคำสั่ง Okay google
วันนี้เราจะพามารู้จักและวิธีเริ่มใช้งานเบื้องต้นของแต่ละตัวกัน
1. Apple Siri
คนที่ใช้งานระบบ #iOS ก็คงจะรู้จัก Siri กันเป็นอย่างดี และเคยลองพูดเล่นพูดคุยกับ Siri กันมาแล้วบ้าง
เพื่อช่วยกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น นาฬิกา/เวลา- สามารถตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งเตือนคำจำ
การบอกเวลา การจับเวลา ตั้งเวลานับถอยหลัง การเปิดใช้งานปฏิทิน
การถามสภาพอากาศ การตั้งจุดหมายการเดินทางได้ หรือการค้นหาสิ่งต่าง ผ่านการป้อนคำสั่งค้นหาในเว็บไซต์ได้
ข้อดีของ Siri
สามารถเพิ่มปุ่มลัดสำหรับกิจกรรมประจำวันที่เราทำบ่อย ๆ ได้
เพิ่มคำสั่งลัดโดนไที่การตั้งค่า > Siri และการค้นหา
เราจะเห็นคำสั่งลัดแนะนำ 3 คำสั่ง แตะที่รายละเอียดคำสั่งเพื่อดูการทำงานในแอป
แตะ + และสามารถบันทึกวลีส่วนตัวได้ (แนะนำเป็นการบันทึกวลีง่ายๆ)
เท่านี้เราก็สามารถใช้ Siri เพื่อช่วยให้กิจกรรมประจำวันเราง่ายขึ้นได้แล้ว แต่ก็ยังคงเป้นระบบที่ใช้งานได้เฉพาะ ผู้ใช้งานระบบ #iOS เท่านั้น
2. Samsung Bixby
ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ผสานเข้าไปกับ แอปพลิเคชันต่าง ๆ ในโทรศัพท์ของเรา
สามารถกดปุ่ม Power ค้างแล้วพูดว่า ไHI Bixby" ซึ่งระบบจะคือผู้ช่วย Bixby voice
ระบบสั่งงานด้วยเสียง สั่งงานผ่านแอปต่าง ๆ ได้โดยตรง เรียนรู้จากลักษณะการพูดของเรา แต่ยังไม่สามารถรองรับภาษาไทย
นอกจากนี้ยังมี Bixby ในหมวดอื่น ๆ เข้ามาช่วยเราได้อีกทั้ง
Bixby vision ที่สามารถนำกล้องส่อง ผสานกับ ai สามารถหาสถานที่ใกล้เคียงในระยะ 300 m
Bixby home แนะนำแอปพลิเคชันตางราง ๆ ที่เหมาะสมกับเรา ตารางนักหมาย
หรือข่าวที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น เรียนรู้ผ่านการใช้งาน เช่นเมื่อเราขึ้นรถ หากตั้งค่าไว้ก็จะเปิดเพลงอัตโนมัติทันที
Bixby reminder เตือนความจะ บอกรายละเอียดตามข้อมูลที่เราป้อนมาไว้
3. Google Assistant
เราสามารถติดตั้งแอปฯ ได้โดยตรงจากการค้นหาใน Google Plays หรือ Play store อยากให้ทำอะไรก็พูดได้เลย
ต่างกันกับ siri Google assistant สามารถดาว์นโหลดใช้งานได้แม้ในระบบ iOS
ข้อดีของ Google assistant
สามารถแยกเสียงคน และเสียงภายนอกได้
เราสามารถเปลี่ยนภาษาขณะพูดคุย หรือใช้ ไทย คำ อังกฤษคำได้เลย
ai ของ Google Assistant ก็สามารถเข้าใจและโต้ตอบเราได้ทันที
มีฐานข้อมูลที่มากกว่า สามารถใช้ค้นหา คุยเล่นได้
ความน่ารักของการตอบคำถาม เป็นกลาง มุขตลกในบางโอกาส
โดยรวมแล้วสามารถสั่งงานได้ทุกอย่างด้วยเสียงเหมือนเราค้นหาใน Google แปลภาษา แปลงค่าต่างๆ แม่นยำมากกว่า
4. Amazon Alexa
ล้ำขึ้นไปอีกขั้นกับผู้ช่วยอัจรยะที่จะทำให้บ้านคุณกลายเป็น Smart Home ที่มีระบบครบถ้วนและชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น
โดยการสั่งงานผ่าน Amazon echo ที่สามารถสั่งการอุปกรณ์ภายในบ้านเราได้
เช่น Robotic vacuum cleaner : หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะระบบ
Touch Switch : สวิทซ์ไฟสัมผัสอัจฉริยะ
Smart Plug : ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ที่สามารถเปิด-ปิดได้ ชุดสัญญาณกันขโมย โดยเลือกซื้อจากอุปกรณ์ที่รองรับ
Alexa Voice Service ได้ เพียงเท่านี้เราก็จะได้สัมผัสกับประสบการณ์สุดไฮเทคในบ้านได้ ไม่ต้องลุกไปปิดไปขณะที่ล้มตัวลงนอนแล้ว
5. Windows Cortana
หลายคนที่ใช้งาน Windows อาจจะเริ่มสังเกตุให้ไอคอน กลม มุมซ้ายล่างของหน้าจอกันแล้ว ผู้ช่วยอัจฉริยะนี้ชื่อว่า Cortana
Cortana สามารถช่วยผู้ใช้ในการกำหนดตารางเวลาทำความเข้าใจกับเสียงที่เป็นธรรมชาติ
สำหรับผู้ใช้งาน Windows ก็สามารถลองใช้งาน Cortana ได้ ในฟังก์ชันต่าง ๆ
ทั้งการจดบันทึก การเตือนความจำ การโปรเข้าโทรออก ตรวจสอบสภาพอากาศ หรือ พูดคุยเป็นเพื่อนแก้เหงาเราได้
นอกจากประโยชน์ ของผู้ช่วนที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันของเราง่ายขึ้นเป้นไม่พลาดบางอย่างไป
เรายังสามารถใช้ ai เหล่านี้ฝึกภาษาได้อีกด้วยเนื่องจากความสามารถในการรองรับได้หลายภาษาของเหล่าผู้ช่วย
หลาย ๆ คนก็จะใช้ผู้ช่วยในการฝึกภาษา หรือทดสอบสำเนียงของตัวเองได้ด้วย
และการเรียกผู้ช่วยขึ้นมากพูดคุยด้วยบ่อย ๆ ก็ทำให้ ai เกิดการเรียนรู้และสามารถช่วยเราได้มากและตรงใจมากขึ้น