แอปพลิเคชันไลน์ที่พวกเราคุ้นเคยกันนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปี เท่านั้นในการมีผู้ใช้ 30 ล้านคน
วันนี้เราจะมาพูดถึงความสำเร็จของสตาร์อัพอย่าง ไลน์ คอร์เปอร์เรชั่น เจ้าของแอปพลิเคชันที่เราขาดไไม่ได้
1) ยอดดาวน์โหลดภายใน 1 ปีกว่า 30 ล้านคน
โปรเจคไลน์ถูกเริ่มขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น
เดือนมีนาคม 2011 ที่ทำให้เสาสัญญาณโทรศัพท์ล้มไป
ผู้คนไม่มีโทรศัพท์และไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ ผู้คนได้รับความเดือนร้อน
ผู้ก่อตั้งไลน์ไม่เห็นด้วยกับความเคยชินที่ภัยพิบัตเกิดขึ้นทำให้คนติดต่อกันไม่ได้
จึงได้เริ่มสร้างสรรค์แอปพลิเคชันที่มีชื่อว่าไลน์ขึ้นมาภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์
ในตอนแรกเป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้คนสามารถส่งข้อความหากันโดยไม่ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ต
ทำให้แอปพลิเคชันเติบโตอย่างรวดเร็วจากยอดดาวน์โหลดภายใน 1 ปีกว่า 30 ล้านคน
2) ขยายตลาดในประเทศที่มีโอกาส
เริ่มแรกไลน์ขยายฐานผู้ใช้ไปที่ประเทศอินโดนีเซียที่มีปัญหาเรื่องแผ่นดินไหวเช่นเดียวกันกับญี่ปุ่น ต่อด้วยประเทศจีน
ก่อนตัดสินใจเข้าไปที่ประเทศที่ตลาดใหญ่ที่สุดอย่างอินเดียที่มีจำนวนประชากรมากพอกับจีน
ทั้งยังไม่มีนโยบายการปิดกั้นทางเศรฐกิจทำให้สามารถขยายฐานธุรกิจได้อย่างเสรี
ปัจจุบันไลน์ได้รับความนิยมใน 3 ประเทศหลักได้แก่ ไทย ญี่ปุ่น เกาหลี และโดนแบนในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย
3) แอปพลิเคชันที่เป็นทุกอย่างเพื่อทุกคน
หลังจากเติบโตอย่างรวดเร็ว ก็ได้ประกาศเป้าหมายในการเป็นแอปพลิเคชันที่เป็นทุกอย่างเพื่อทุกคน
หรือเรียกอีกอย่างนึงว่า 'Super App' หรือแอปพลิเคชันเดียวที่สามารถทำได้ทุกอย่าง
โดยเปิดตัว Line game ออกเป็นอันดับแรก ซึ่งทำให้ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปีมีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคน
ตามมาด้วย LineMusic LineShop LinePlay LineTexi ในไทยเรียกว่า LineMan
5 ปีพาไปเปิดเผยรายได้รวมกันกว่า 1000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจุบันมีผู้ใช้งานส่งสติ๊กเกอร์ถูกส่ง 2400 ล้านครั้งต่อวัน จากการหยิบปัญหาของคนอื่นขึ้นมาแก้ปัญหา
ทำให้ทุกคนเข้ามาใช้งานอย่างง่ายโดยไม่ต้องทำการตลาด ด้วยวิสัยทัศน์ที่มองไกล ไม่จมกับความสำเร็จ
ไลน์มองตัวเองจะเป็น 'Super App' ทำให้มีการขยายฐานและพัฒนาจนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เมื่ออ่านจบแล้วเราได้อะไรจากบทเรียนธุรกิจนี้บางอย่างลืมมาแชร์กันนะครับ
@alltimage